11 ธันวาคม 2555

วัดป่าโสมพนัส

วัดป่าโสมพนัส บ้านภูเพ็ก ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยมีพระอาจารย์สุริยา มหาปญฺโญ เป็นประธานสงฆ์ ได้ดำเนินการเผยแพร่พุทธธรรมด้วยการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวตามแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยมีผู้ที่เข้ามารับการฝึกปฏิบัติเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทั้งในหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ทั้งที่มาจากจังหวัดสกลนคร จังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน และจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย รวมทั้งที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา ฯลฯ

หลักการสอนของวัด เน้นการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว ให้ระลึกรู้ รู้จักตนเอง รู้จักความทุกข์ รู้สาเหตุและทางออกจากทุกข์ สอนให้เข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่ยึดติดพิธีกรรม โดยพระอาจารย์สุริยา จะดูแลทำการสอนอย่างจริงจัง แต่เรียบง่าย และให้ความเอาใจใส่ผู้ปฏิบัติอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้รู้ ได้เห็น ได้เป็น ได้สัมผัส ในหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง

ประวัติวัดป่าโสมพนัส

พ.ศ. 2492 – 2494 เป็นช่วงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำภูเพ็ก โดยใช้แรงงานคนในการก่อสร้าง มีการจ้างแรงงานชาวบ้านรอบๆ พื้นที่โดยเฉพาะ บ้านนาหัวบ่อ บ้านหนองดินดำ การเดินทางมาทำงานมีคนงานบางคนก็เดินทางไปเช้า เย็นกลับ และมีบางส่วนก็สร้างที่พักรอบๆ อ่างเก็บน้ำเพื่อไม่ต้องเดินทางกลับร่วมกับเจ้าหน้าที่ จึงเริ่มเกิดชุมชนขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่คนในชุมชนบ้านอ่างจะเดินทางไปประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาในวันสำคัญๆ เช่น การทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ที่วัดโพธิ์คำ บ้านนาหัวบ่อ ซึ่งต้องเดินทางไกลและยากลำบาก ระยะทาง 6 กิโลเมตร ในสมัยนั้นถนนหนทางไปมาไม่สะดวก และแต่ก่อนวัดพระธาตุภูเพ็กก็ยังไม่เกิดขึ้น มีเพียงโบราณสถานบนภูเขากลางป่าเท่านั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านขึ้นไปเพราะการเดินทางยากลำบาก แต่บางครั้งก็มีพระธุดงค์ขึ้นไปจำพรรษาบ้างเพื่อเจริญวิปัสสนา เพราะเป็นสถานที่สงบ

เมื่อ พ.ศ. 2494 หลวงพ่อโสม โสภิโต ซึ่งเป็นพระธุดงค์มาจากจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินธุดงค์เพื่อไปจำพรรษาที่พระธาตุภูเพ็ก แต่เมื่อเดินทางมาถึงบ้านภูเพ็กการเดินธุดงค์ของท่านในวันนั้นต้องค่ำก่อน ท่านจึงได้ปักกรดที่บริเวณอ่างเก็บน้ำในคืนนั้น รุ่งเช้าเมื่อชาวบ้านพบเห็นจึงนำอาหารมาถวายและชาวบ้านก็ได้นิมนต์ท่านอยู่ที่หมู่บ้าน เพราะหมู่บ้านภูเพ็กไม่มีวัดเวลาทำบุญต้องเดินทางไปที่วัดโพธิ์คำ บ้านนาหัวบ่อ จากนั้นชาวบ้านจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุฏิ ศาลา ห้องน้ำ เป็นที่พักสงฆ์ขึ้น บริเวณพะลานหิน ใกล้กับต้นไฮใหญ่ ติดกับห้วยวังกอไผ่ ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน โดยไม่มีชื่อวัด แต่ชาวบ้านเรียกที่พักสงฆ์นั้นว่า วัดหลวงพ่อเซ็น ตามอาการสั่นของมือท่าน

ต่อมา พ.ศ. 2503 พระมหาสม สุมโณ เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ท่านเป็นผู้มีความรู้ และชอบค้นคว้าวิชาโบราณคดี ประวัติศาสตร์ ได้เดินทางมาศึกษาพระธาตุภูเพ็ก ทุกครั้งที่ท่านมาจะพักที่วัดหลวงพ่อเซ็น พระมหาสมจึงได้ตั้งชื่อให้ว่า วัดโสมพนัส ตลอดระยะเวลา พ.ศ. 2594 – พ.ศ. 2538 วัดโสมพนัสได้เป็นที่พักของพระสงฆ์ มีพระจำพรรษาในบางปีและหลายปีก็เป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษา

จากการศึกษาพระธาตุภูเพ็กของพระมหาสม สุมโณ ครั้งนั้นทำให้เกิดการสร้างถนนขึ้นและต่อมาพระธาตุภูเพ็กจึงเป็นโบราณสถานที่รู้จักทั่วไป โดยพระมหาสมได้ร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอพรรณานิคมและร่วมกับญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาก่อสร้างวัดพระธาตุภูเพ็กขึ้น ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

การเปลี่ยนแปลงชื่อวัด

มีการเปลี่ยนชื่อตามลำดับ

  • ชื่อที่ 1 ในระยะแรกชาวบ้านเรียกชื่อเป็นวัดหลวงพ่อเซ็น
  • ชื่อที่ 2 วัดโสมพนัส โดยพระมหาสม เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมเป็นผู้ตั้ง
  • ชื่อที่ 3 วัดโสมมนัส ตั้งชื่อโดย พระครูสุวรรณ โพธิรัต เจ้าคณะอำเภอพรรณนานิคมในปัจจุบัน
  • ชื่อที่ 4 วัดป่าโสมพนัสสามัคคีธรรม ถูกตั้งชื่อในสมัยที่หลวงพ่อสนใจ จำพรรษาอยู่ระหว่าง พ.ศ. 2531 – พ.ศ. 2534
  • ชื่อที่ 5 “วัดป่าโสมพนัส” ถูกตั้งชื่อในสมัยที่พระอาจารย์สุริยา มหาปญฺโญ มาจำพรรษาที่วัด ตั้งแต่ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 - ปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงสถานที่วัด

วัดป่าโสมพนัสได้มีการย้ายวัดตามลำดับอยู่ 2 ครั้ง เนื่องจากการขยายตัวของหมู่บ้านและการก่อสร้างโรงเรียนบ้านภูเพ็ก ลำดับได้ดังนี้

  • พ.ศ. 2494 ตั้งวัดครั้งแรก จะตั้งบริเวณพะลานหิน ใกล้กับต้นไฮใหญ่ ติดกับห้วยวังกอไผ่ ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน
  • การย้ายสถานที่ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2497 ย้ายมาที่สนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านภูเพ็กในปัจจุบัน
  • การย้ายสถานที่ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2512 ย้ายจากสนามโรงเรียนบ้านภูเพ็ก มาตั้งบริเวณดอนปู่ตาของบ้านภูเพ็ก เมื่อ พ.ศ. 2519 ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลือจาก กรป.กลาง หน่วย นปค. 32 ได้มาทำถนนลูกรังจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ขึ้นไปพระธาตุภูเพ็ก เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร (เส้นทางปัจจุบัน) ทำให้ย้ายศาลาจากดอนปู่ตามาที่ตั้งริมถนนทางขึ้นพระธาตุภูเพ็กณที่ตั้งปัจจุบัน และ พ.ศ. 2543 ก็มีการขยายบริเวณวัดออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยญาติธรรมจากกรุงเทพฯ ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านบ้านภูเพ็ก ทำให้ปัจจุบัน วัดป่าโสมพนัสมีพื้นที่ โดยประมาณ 60 ไร่

ไม่มีความคิดเห็น: