21 ธันวาคม 2555

แก้ปํญหาโลกร้อน ต้องแก้ที่เหตุ

โลกร้อน (Global Warming) ปัญหาที่แท้จริงของมันคืออะไร การจะแก้ปัญหาโลกร้อนต้องแก้ที่เหตุ พุทธศาสนาสอนเรื่องทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ถ้าเราไม่รู้ปัญหาสาเหตุ เราจะแก้ไม่ถูกจุดเลย ไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นคืออะไร อยู่ตรงไหน แล้วจะดับได้ด้วยเหตุปัจจัยอะไรบ้าง ปัญหาก็จะคงสภาพอยู่อย่างนั้น

ปัจจุบันโลกมันร้อน เพราะแสงที่ส่องเข้ามาแล้วมันสะท้อนกลับออกไปไม่ได้ มันถูกกั้นด้วยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) ความร้อนที่เกิดจากแสงอาทิตย์เลยเป็นบรรยากาศปกคลุมโลกอยู่ทำให้อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น ซึ่งนับวันจะมีปริมาณทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ และการใช้วัตถุปัจจัยในชีวิตประจำวันแทบทุกอย่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนหนาแน่น อุณหภูมิเหนือผิวโลกโดยเฉลี่ยมีความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น

โลกในความหมายนี้คือใบกลมๆ นี้แหละ ความหมายของพุทธศาสนาไม่ได้หมายถึงโลกที่เราอยู่นี้ เหมือนที่เรารับรู้มาแต่ก่อนเก่าก่อนๆ อันนี้มันหมายถึง The world, The earth, Sphere โลกกลมๆ ที่เป็นดาวเคราะห์ แต่ทางพุทธศาสนาเป็นคนละอันกัน

โลกร้อน ทางโลกเราจะมองกันว่าโลกที่เราอยู่นี้มันร้อน เป็นเรื่องของพื้นดินลมฟ้าอากาศซึ่งอากาศบ้านเราก็แปลกไปจริงๆ นะ ปีนี้หนาวและฝนก็ตกเร็ว นักวิทยาศาสตร์ไทยบางท่าน ยังบอกว่าเผลอๆ ปีนี้จะมีหิมะตกที่ภาคเหนือ ประเทศทางอเมริกาใต้ หรือแอฟริกาเขามีหิมะตก คนก็สนุกวิ่งกินหิมะน้ำแข็งเหมือนลูกเห็บบ้านเราซึ่งเขาไม่เคยเจอ สิ่งที่ไม่เคยเห็นมันก็เห็น ปีนี้ก็เช่นกัน ประเทศไทยก็เริ่มเปลี่ยนไป ฝนปีนี้ก็ตกดีเฉพาะบางพื้นที่แต่ว่าได้ถามคนเขาบอกว่าปีนี้สังเกตว่าฟ้าจะร้องตลอด คือปกติสภาวะอากาศแบบนี้มันจะมาเฉพาะช่วงที่ฤดูกาลสิ้นสุด ปรากฏการณ์นี้ชาวบ้านเขาเรียกว่า “ฟ้าเอิ้นสั่ง” หรือทำนอง “ฝนสั่งฟ้า” มันสั่งลาแต่หัวปีต้นปีกันอย่างเหลือเชื่อ แต่มาถึง ณ วันนี้ ปีนี้ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ฝนฟ้าอากาศไม่ปกติดังที่เคยเป็นมา คนแก่คนเฒ่าปราชญ์ประสบการณ์ (ไม่ใช่ปราชญ์วิชาการ) เขาเลยสังเกตว่ามันไม่เหมือนเดิม มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ปกติฝนจะมาเป็นช่วงๆ แต่ปีนี้มันเปลี่ยนไปคือฝนมาเร็วลมร้อนกรรโชกแรง แล้วก็หมดเร็ว สกลนครไม่เคยแล้ง ก็แล้ง จังหวัดที่ไม่เคยท่วมก็กลับท่วม น้ำในอ่างเก็บน้ำภูเพ็กที่วัดเราปริมาตรตั้ง ๑,๘๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์ ใช้แรงงานชาวบ้านก่อสร้าง งบประมาณสมัยนายเตียง ศิริขันธ์ เป็นสส.สกลนคร ช่วงปี ๒๔๙๒ – ๒๔๙๕ แต่ปีนี้แห้งขอดจะถึง ๑๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์ หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่จะว่าไปแล้วปัญหาส่วนหนึ่งก็เกิดจากระบบการจัดสรรน้ำของเกษตรกร สมาคมผู้ใช้น้ำนี่เองด้วยแหละ เข้าใจว่าขาดระบบการบริหารการจัดการน้ำที่ดีมีประสิทธิภาพอีกต่างหาก

น้ำมีไม่พอต่อการสนับสนุนกิจกรรมพุทธเกษตรภายในวัด ไม่ว่าจะเป็นเกษตรโลกหรือเกษตรธรรมต้องใช้น้ำกันอย่างประหยัดมากๆ อีกทั้งที่ตั้งวัดเราก็อยู่เหนืออ่าง พอฤดูแล้งน้ำลดก็หดหายทันที ฝนก็มีตกมาอยู่บ้างช่วงห่างๆและปริมาณน้อยๆ ดีเปรสชั่นเข้ามาแค่ครั้งเดียว จริงอยู่บรรยากาศแบบนี้อาจจะดีสำหรับกิจกรรมอย่างอื่น ธุรกิจอย่างอื่น แต่สำหรับโลกใบนี้ภาวะเช่นนี้มันส่งสัญญานความผิดปรกติที่จะกลายเป็นทุกข์มหันต์ให้กับเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตในโลกนี้หรือไม่ แหละคำว่าอนาคตนั้นใกล้ไกลแค่ไหน จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เดี๋ยวนี้หลายฝ่ายได้เริ่มทำการศึกษา ได้ตื่นตัวกับการป้องกันรักษาคุ้มครองซ่อมแซมโลกใบนี้กันบ้างแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: