21 ธันวาคม 2555

รณรงค์งดใช้โฟมทำกระทง พวงหรีด

แต่มีเรื่องหนึ่งที่อาตมาอยากให้รณรงค์ เรื่องวัสดุที่มันไม่ย่อยสลายคือโฟม การเผาโฟม ทำลายชั้นบรรยากาศ จะเห็นคนรณรงค์ตลอด อย่างเช่น ในเทศกาลการลอยกระทงในแต่ละปีจะดังมากเรื่องโฟมจะมีนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กัน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีกลุ่มคนเคลื่อนไหว ไม่ให้เอามาใช้ เพราะไม่ย่อยสลายและไม่ให้เผา เพราะมันทำลายชั้นบรรยากาศ สารเคมีที่ใช้ในการผลิตโฟม คือ CFC (Chlorofluorocarbon) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มก๊าซเรือนกระจก เป็นสารชนิดเดียวกับที่ใช้ทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศ แอร์ ตู้เย็น สเปรย์ น้ำยาดับเพลิง ซึ่งมีปริมาณถึง ๕% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด

เป็นสารที่ตกค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศ ไม่ย่อยสลาย นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างออกมาเรียกร้องให้ใช้ใบตอง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ให้ย่อยสลายได้ แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะจิตติดรูปลักษณ์ นี่เป็นเรื่องทิฎฐิ เรื่องประเพณีความเชื่อ ความรักสวยรักงาม วัฒนธรรมความคิดความอยาก ที่งอกเงยขึ้นมาแล้วโดนใจคน ยากที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพราะขาดสติในการจัดการก็กลายเป็นวัฒนธรรมแบบอวิชชา แม้จะสร้างความสุขสนองตอบความคิดความเชื่อ เสริมเศรษฐกิจรายได้ให้สังคม แต่ผลในระยะยาวมันสะสมเป็นปมปัญหาที่แก้ไม่ได้ เช่นนี้มันคุ้มหรือ

แต่บางที่เขาเห็นว่าโฟมมันลอยน้ำมองเห็นสามารถเก็บมาทำลายได้ แต่ใบตองมันจะจมลงไปแล้วมันก็เน่าไปกับน้ำทำให้น้ำเสีย ชั้นบรรยากาศที่กรองแสงไม่เสียแต่น้ำเสีย เขาจึงเห็นว่าโฟมมันลอยอยู่ข้างบนสามารถเก็บไปเผาทำลายได้ แต่มันก็ทำลายโอโซน มันเจาะชั้นบรรยากาศจนทะลุ และมีการสะสม อยากให้ช่วยกันรณรงค์คือลอยกระทงนั้นปีหนึ่งเราทำครั้งหนึ่ง แต่กรณีอื่นเช่น ใช้โฟม การเผาโฟมที่มาในรูปแบบของงานศพ พวงหรีดโฟม ตามงานศพจะเยอะมาก


โฟมพวงหรีดในงานศพมีมากกว่าเทศกาลลอยกระทง


ทั่วทุกวัดในประเทศไทย ที่มีใช้กันในงานศพ รวมกันแล้วอาจเยอะกว่าที่มีในเทศกาลลอยกระทง และที่สำคัญคือเกิดขึ้นทุกวัน ทุกท้องที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ พวงหรีดที่เขานำไปงานศพพอเสร็จก็เผา เพราะว่านำไปคืนร้านเขาก็ไม่เอา ซื้อมา ๓๐๐ บาท เวลาขายคืนแค่ ๒๐ บาท เขาก็ไม่เอา ให้เขาฟรีๆ เขาก็ไม่รับคืน เขากลัวศพกลัววิญญาณมันจะลุกขึ้นมาทวงพวงหรีดในร้านของเขา

เวลามีงานศพ จะมีพวกผู้แทนนักการเมืองทั้งหลายที่กำลังหาเสียง มีศพที่ไหนเขาก็เอาไปติดที่นั่น ไปให้เจ้าภาพ เป็นการโฆษณาหาเสียงฝากชื่อให้คุ้นหูชินตาประชาชน คือใช้มันครั้งเดียว วัดหนึ่งๆ มีขยะโฟมเยอะก็ไม่รู้ว่าเขาจะจัดการบริหารอย่างไร และไม่รู้ว่าหากใช้วิธีการเผาแล้วจะเกิดการทำลายชั้นบรรยากาศโลกตั้งเท่าไหร่ เมรุแต่ละที่มีเท่าไหร่ วันหนึ่งๆ เขาเผากันไปเท่าไหร่ ฉะนั้นขอฝากไว้ด้วยที่ใครคิดจะเอาพวงหรีดโฟมไปงานศพ…

บ่อยครั้งที่วัดนี้จะเห็นพวกนักการเมืองชอบมาหาขอหรือเช่าซื้อชุดละ ๕ บาท พวงหรีดเก่าที่ใช้แล้ว ตามวัดต่างๆ ก็คงเช่นเดียวกัน แล้วเขียนชื่อตัวเองนำไปโชว์ตามงานต่างๆ หาเสียงเลี้ยงตัว เพราะการสร้างความดียังมีไม่พอก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ ค่านิยมนักการเมืองในสายตาชาวบ้านนั้นยิ่งกว่าเทพเสียอีก เดี๋ยวนี้พิธีเทศนาหน้าศพ ให้ความรู้กับแขกผู้มาร่วมงานจะเริ่มหดหายกันไปเสียแล้ว ปัจจุบันกลับกลายเวทีหาเสียงของนักการเมืองแทน เห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระกันไปเสียแล้ว หรือธรรมะมันได้ตายไปพร้อมกับคนตายเสียแล้ว มันจึงไม่ได้ทำหน้าที่อะไรเลย

ตรงนี้ เราทำเฉพาะที่เราทำได้ เฉพาะที่เรารู้เห็น เฉพาะที่เรามีสิทธิ์ มีศักยภาพ พลานุภาพที่พอจะทำได้ ปลูกป่าบ้าง รณรงค์ใช้วัตถุดิบทุกอย่างด้วยสติ และอย่างประหยัดบ้าง ไม่สิ้นเปลือง ไม่ทำลายโลก เวลาไปร่วมงานศพครั้งไหนๆ ก็จะชี้แจงแสดงธรรม ให้ผู้คนทั้งหลายนำสิ่งของอย่างอื่นไปร่วมงาน เอาคุณธรรม เอาน้ำใจ เอาความห่วงใย ความรักใคร่สามัคคี เอาเครื่องไม้เครื่องมือ เอาวัสดุสิ่งของเอาเงินไปช่วยให้เจ้าภาพ คนละ ๒๐ บาท ๑๐๐ บาท หรือ ๒๐๐ บาท ให้เจ้าภาพเขานำจตุปัจจัยไปซื้ออาหารมาเลี้ยงแขกยังจะดีกว่าเอาชื่อตัวเองไปติดโฆษณาประชาสัมพันธ์หน้าศพ ก็เหมือนเอาทองไปติดหน้าพระนั่นแหละ เป็นพวกจิตชอบเสนอหน้า อยากได้หน้า หาชื่อเสียง ได้หน้าแต่อย่าให้โลกร้อน

เรามองเฉพาะมุมให้เกียรติเจ้าภาพ แต่หากขาดปัญญาก็กลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับโลกโดยไม่รู้ตัวและหากจะอ้างเหตุผลทางประเพณี อาตมาว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เพิ่งแทรกเข้ามาใหม่ในวิถีชีวิตสังคมไทย ประเพณีอะไรหากไม่ใช่สัจธรรม พิจารณาด้วยปัญญาแล้วให้โทษมากกว่าให้คุณ ได้ไม่คุ้มเสีย เราก็เลิกได้ วัฒนธรรมประเพณีนั้นมันมีเกิดมีตายได้อยู่แล้ว สร้างสรรค์วัฒนธรรมประเพณีที่ขาดปัญญาจะกลายเป็นปัญหาทีหลังเสมอ พอคนมีอุปาทานหนักๆ เข้าก็แก้ไขลำบาก อะไรก็ตามให้นำข้อดีข้อเสียมาหักล้างกันให้มากๆ แล้วค่อยทำ เอาความถูกต้องอย่าเอาตามถูกใจ เอาตามสัจจะ อย่าเอาตามความอยาก

ไม่มีความคิดเห็น: