13 ธันวาคม 2555

qa 211-220

๒๒๐.

ถาม

หนูอยากทราบว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับหนูตอนนี้คืออารมณ์ชนิดใดคะ หนูคุยโทรศัพท์กับเพื่อน อยู่ๆหัวสมองก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะเหมือนมีความคิดบางอย่างจะผุดขื้นมา แต่ยังไม่ทันจะรู้ว่าคิดอะไร ดีหรือร้าย ความรู้สึกก็ว่างเหมือนเดิม สิ่งนี้เร็วมากค่ะ บางครั้งเพื่อนหนูบ้าจี้ และเพื่อนอีกคนแกล้งเขา หนูอยู่ใกล้เลยโดนตบหน้า แต่หนูกลับไม่รู้สึกเจ็บค่ะแต่กลับเหมือนได้ยินเสียงวัตถุกระทบกันแทน

ตอบ

ก็จิตว่างตามธรรมชาติเกิดได้ในหลายๆกรณี เช่น ว่างเองโดยธรรมชาติ ว่างเพราะลืมคิด และว่างเพราะเห็นทุกข์โทษของความคิด ว่างเพราะเห็นอนิจจัง ว่างเพราะเห็นอนัตตา ว่างเพราะเกิดปัญญาเห็นแจ้ง.

๒๑๙.

ถาม

ขณะเดินจงกรมมีอาการง่วงขึ้นวูบหนึ่ง ได้ยินเสียงในจิต "ง่วงทำไมเนี่ย" แล้วอาการง่วงก็หายไป แล้วก็รู้ว่าอ๋อ นี่คือสติ เขาคอยมาเตือนแล้วก็มีเสียงบอกมาอีกว่าให้คอยดู "ปัญญา" ขณะเดินไปเรื่อยๆก็ได้ยินเสียง "ฉันจะอยู่กับเธอนะ" แล้วก็ได้ยินเสียงต่อไปอีกว่า "ต่อไปนี้ฉันจะคอยกำกับดูแลชีวิตเธอเอง"พอสิ้นเสียงโยมก็มีอาการน้ำตาไหลดีใจขนลุกไปทั้งตัว หลวงตาคะ โยมไม่แน่ใจค่ะ โยมกลัวตัวเองจะโดนหลอกค่ะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนั้นเป็นอย่างที่เสียงบอก อีกใจโยมก็ว่าใช่ เพราะเป็นอาการเดียวกันเหมือนที่อยู่วัดป่าโสมพนัส ขอความเมตตาให้หลวงตาตอบด้วยค่ะ

ตอบ

สติเพียงทำหน้าที่รู้สิ่งที่เกิดขึ้น รักษาจิตให้ตั้งมั่น วางใจให้เหนือคำว่าใช่หรือไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมารมณ์อย่างหนึ่ง ทำให้จิตเราเกิดพละกำลังใจอย่างประหลาด จัดอยู่ในกลุ่มของปีติอย่างหนึ่ง หากละปีตินี้ได้ ไม่หลงกลัวหรือปีติยินดีไปกับมัน สักพักไม่นานอาการนี้จะหาย แล้วจะก่อเกิดเป็นสมาธิที่บริสุทธิ์เองโดยธรรมชาติ นั่นคือมรรคแท้.

๒๑๘.

ถาม

ตอนผมดูจิต เช่นเมื่อเวลาโกรธจะมีเสียงในหัวว่าโกรธให้รู้ว่าโกรธ และผมมักจะพากย์อย่างนี้ทุกครั้งเมื่อจิตเคลื่อนไหว ถามว่าถูกไหม ถ้าไม่ถูกควรแก้อย่างไร

ตอบ

รู้เฉย ๆ ไม่ต้องพากย์ พัฒนาการรู้จนกระทั่งรู้ทีไรดับได้ในขณะนั้น ๆ เลยแหละดี.

๒๑๗.

ถาม

ตอนนี้หนูฝึกงานที่โรงพยาบาลค่ะ พอได้ขึ้นไปอยู่บนตึกผู้ป่วย เห็นสภาพคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ความทรมาน ความตาย ต่างๆ หนูรู้สึกว่าหนูหดหู่ จิตตก ไม่ค่อยสนุกหรือมีความสุขกับการฝึกงานและรู้สึกไม่ชอบกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ หนูควรจะทำอย่างไรดีคะ เพื่อให้ตัวเองมีกำลังใจชอบและอยากทำในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่

ตอบ

คิดหาประโยชน์ข้อดีของการกระทำ หรือของสิ่งนั้นๆแหละ แม้มันไม่ดีก็เฉยกับมันให้ได้ คือทำใจให้ว่างกับทุกๆ อย่างที่ผัสสะนั่นแหละ สติตัวเดียวนั่นแหละ อย่าให้หลุด.

๒๑๖.

ถาม

อยากได้การบ้านจากหลวงตามาทำค่ะ เช่นที่ว่าหลวงตาให้เดินดูอนิจจัง

ตอบ

เธอเห็นตัวเองว่าเป็นอนิจจังได้หรือยัง ไปหาความเป็นอนิจจังในกายในจิตให้ได้ทุก ๆ เรื่อง ทุก ๆ อย่าง ทุก ๆ อัน เพราะสังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนิจจังนะจ๊ะ.

๒๑๕.

ถาม

เคยสนทนากับหลวงตาและส่งอารมณ์เรื่องเห็นสภาวะคล้ายนิมิตเหมือนผิวน้ำที่กระเพื่อมไหว และราบเรียบ และขุ่นมัวแล้วไม่ได้สนใจอะไร เพียงแต่ไม่ได้ตั้งใจดูแต่ว่ารู้อยู่ ก็จะเห็นน้ำที่ขุ่นมัวนั้นใสขึ้นจนเห็นตะกอนที่อยู่ใต้น้ำหมด แต่พออยากดูจริงๆ น้ำก็กลับขุ่น พอไม่สนใจจะดูน้ำนั้นก็กลับใส และใสนิ่งจนน้ำทั้งหมดรวมตัวลอยขึ้นเป็นหยดน้ำกลมใส นั่นเป็นครั้งที่ได้สนทนากับหลวงตาครั้งแรกคะ

ส่วนมาคราวนี้คือสภาวะที่เหมือนนิมิต ความรู้สึกเหมือนกับการตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ได้ทำความรู้สึกไปพร้อมกับความรู้สึกที่กำลังตกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกว่าจิตไปหยุดอยู่ในจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลมีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายในจักรวาล และรู้สึกว่าจิตได้เปิดเผยหน้าที่การทำงานของจิตเป็นความรู้สึกว่าชั่วแว๊บเดียวเท่านั้น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปยาวนานหาประมาณไม่ได้ จนกระทั่งมีสิ่งหนิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าจิตพาไปรู้เห็นแล้วเกิดความอัศจรรย์ขึ้นมา จิตนั้นก็ถูกครอบงำ ติดแน่น รู้สึกเหมือนว่ากำลังเรายังไม่พอและรู้สึกว่าอวิชชามีประมาณหาที่สุดไม่ได้ จิตก็มีหน้าที่รู้เท่านั้น เราเองต่างหากที่พาจิตไปติดยึดกับทุกข์ค่ะ เพราะดิฉันเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้บอกกับดิฉันว่ากำลังยังไม่พอก็ต้องเดินทางสะสมสร้างเหตุปัจจัยไปเรื่อย อยากเรียนสอบถามพระอาจารย์ รบกวนชี้แนะให้กระจ่างด้วยค่ะ

ตอบ

จะถามว่าอะไร หนูทำก็ดีแล้วนิ ให้ขยันตั้งใจทำไปเรื่อยๆ เถิด ปฏิบัติธรรมให้ถูกต้องจะมีแต่ผลดีกับดีส่วนเดียว.

๒๑๔.

ถาม

ขอความเมตตาจากหลวงตาช่วยแนะนำวิธีการตามดูจิต และการดูความคิดของตัวเองด้วยคะ เพราะเป็นคนคิดมากและคิดละเอียดเกินไป บ่อยครั้งก็ถูกความคิดหลอกเอา แต่ดีที่รู้ทันมันเร็วขึ้นจึงดับลงในระยะเวลาไม่นานนัก แต่เวลาถูกผัสสะมากระทบทางตาบ้าง ทางหูบ้าง เจ้าความคิดมันก็กลับมาอีก ก็พยายามดูมัน บางครั้งมันก็ปรุ่งแต่งไปบ้างตามอารมณ์ที่มากระทบ นี่เป็นการทำงานของจิตใช่ไหมคะ จะมีวิธีการอย่างไร ให้ไม่ทุกข์กับมาก หากมันเกิดขึ้นมาอีก ส่วนมากจะป็นเรื่อง ความรักใคร่ผูกพันกับคนที่ตนรัก อารมณ์ที่เกิดจะเป็นความน้อยใจบ้าง อิจฉาที่เขาทำดีกับคนอื่นบ้าง อยากตัดความผูกพันค่ะหลวงตา ไม่อยากเป็นทุกข์กับมันอีก

ตอบ

มาบวชสิ... ลำพังเพียงสอนทางอีเมลแบบนี้คงมีผลน้อย ขบวนการการเรียนการสอนที่ได้ผลคือต้องประกอบด้วยการพูดให้ฟัง ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เคี่ยวเข็ญให้ปฏิบัติ เมื่อติดขัดก็ต้องรีบแก้ปัญหาให้ทันที เช่นนี้รับรองว่าได้ผลแน่ๆ .

๒๑๓.

ถาม

ผมอยากทราบว่าขณะที่เรากำลังยืนอยู่ ถ้าผมไม่เก่งดูลมหายใจและไม่อยากยืนคลึงนิ้วให้เสียบุคลิกภาพ หลวงตาพอจะมีวิธีอื่นแนะนำไหมครับ

ตอบ

ฝึกรู้ ฝึกเห็น ฝึกตัด ฝึกทิ้งความคิดไปเลยก็ได้ มันเกิดตรงไหนขณะทำอะไรอยู่ก็ให้ตัดมันทิ้งตรงนั้น.

๒๑๒.

ถาม

การเจริญสติต้องหลับตาด้วยไหมครับ เพราะกระผมเพี่งฝึกใหม่ หรือไม่หลับตาก็ได้ครับ

ตอบ

หลวงพ่อเทียนเน้นย้ำผู้ปฏิบัติเสมอๆว่า ไม่ต้องนั่งหลับตา ไม่ควรนั่งหลับตา ไม่ให้นั่งหลับตา.

๒๑๑.

ถาม

เวลาที่เรากำลังสร้างจังหวะอยู่แล้วความคิดเข้ามาโดยอัตโนมัติและอีกอย่างพอออกมาจากวัดไม่ค่อยมีสมาธิเลยค่ะ จะต้องทำยังไงเหรอคะ

ตอบ

กลับเข้าไปวัดอีกก็ได้ หรือไม่ หากเข้าใจหลักการแล้วเธอก็ฝึกเอาเองได้นิ.

ไม่มีความคิดเห็น: