13 ธันวาคม 2555

qa 231-240

๒๔๐.

ถาม

เวลานั่งสมาธิแล้วตัวโยกกับที่หลวงตาพูดว่าแผ่นดินไหวคืออะไรเป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่

ตอบ

คำว่าแผ่นดินไหวในที่นี้ หมายถึง อารที่ธาตุขันธ์เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยวิปัสสนาญาณ รู้จักกันในหมู่ผู้ฝึกเจริญสติ เรียกกันง่าย ๆ ว่า “จิตพลิก”

๒๓๙.

ถาม

1. ผมเห็นต้นจิตแล้วมีอาการอย่างนี้ คือ เมื่อเริ่มคิดเห็น เริ่มปรุงแต่งก็เห็น เมื่อเห็นจุดเริ่มคิดนี่คือเกิดใช่ไหมครับ เมื่อสติจับได้มันก็หาย นี่คือดับใช่ไหมครับ

ตอบ

การเกิดดับมี 2 แบบ คือ แบบสมมติและแบบปรมัตถ์ ในแบบที่ 1 นั้นดับแล้วเกิดอีก แบบที่ 2 นั้นดับแล้วดับเลย

ตอนแรกอาการเกิดดับมันจะถี่มาก แต่ตอนนี้ความถี่ของอาการเกิดดับมันช้าลงๆ บางครั้งก็ไม่เกิด อยู่ว่าง ๆ อย่างนั้นแหละ
ตอนนี้สติผมมีกำลังมาก ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่เกิดความคิด สติเห็นมันจะดับไปเลย ผมเปรียบมันเหมือนต้นไม้ที่ยืนต้นแล้ว มีใบใหม่เกิดขึ้นแล้ว เราเด็ดใบอ่อนมันทิ้งโดยที่มันไม่มีโอกาสเป็นใบโตได้เป็นอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง จนนาน ๆ จะมีเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่ง รู้สึกว่าสติจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น แค่เริ่มแทงใบก็ถูกเด็ดแล้ว รู้สึกจิตนิ่งมากๆ แต่ก็มีบางครั้งยังมีอยู่แว็บหนึ่งเกิดขึ้นแล้วโตนิดหน่อยแล้วก็ถูกเด็ด ผมเข้าใจว่าต้นไม้ต้นนี้เมื่อถูกเด็ดใบบ่อยๆเข้าวันหนึ่งเมื่อมันไม่มีใบปรุงอาหารมันจะแห้งตายทั้งยืนนี่คือเกิดจากของจริงที่เกิดขึ้นกับตัวไม่ได้เอามาจากใคร

หลวงตา สาธุ

ถาม

2. ตอนนี้ผมเดินอยู่บนเส้นทางมรรคแล้วใช่ใหมครับ

ตอบ

เมื่อใดที่อยู่กับความรู้ตัว ผ่านนิวรณ์ จิตโปร่ง โล่ง – เบา รู้เท่าทันความคิดเกิดดับได้ คือ อาการของจิตที่เข้าสู่เส้นทางถาม

3. อยากให้อาจารย์สอบอารมณ์ผม

ตอบ

ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องจนติดลำต้น ก่นรากเหง้ามันออกไปได้หมดโน่นแหละจึงจะวางใจเป็นกลางได้แท้จริง

ถาม

4. ผมต้องทำอย่างไรต่อ ผมตอบตัวผมเองว่าให้ทำเหมือนเดิม ผมมั่นใจอย่างนั้นไม่ทราบว่าถูกผิดประการใด

ตอบ

ดูใจที่มันเฉย ไม่เฉย จิตที่มันแอบคิด สร้างสมมุติ หรือที่มันเกิด มันดับแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

ถาม

5. ผมตอบตัวผมเองว่าให้ทำเหมือนเดิมผมมั่นใจอย่างนั้นไม่ทราบว่าถูกผิดประการใด

ตอบ

เข้าใจถูก

๒๓๘.

ถาม

หนูเคยปฏิบัติธรรมหลายรูปแบบ ดูลมหายใจ พุทโธ ยุบหนอ-พองหนอ แต่ไม่ต่อเนื่อง ตอนหลังได้ฟังMP3ของ อ.กำพล และได้ไปฟังธรรมหลวงพ่อคำเขียนเทศน์ที่ จ.เชียงใหม่ ก็เริ่มหัดเจริญสติแบบเคลื่อนไหว เพิ่งรู้จักหลวงตาทางอินเตอร์เน็ตหลังจากที่หลวงตาไปเปิดอบรมที่บ้านจันทน์ไม้หอมจ.ลำพูน หนูเจริญสติแนบเคลื่อนไหวก่อนนอนวันละ1 ชม.โดยจะฟัง MP3 ของหลวงพ่อคำเขียน ของหลวงตาไปด้วย อยากถามหลวงตาว่าฟังไปด้วยเจริญสติไปด้วย กับเจริญสติอย่างเดียวอย่างไหนจะดีกว่ากัน

ตอบ

ดูคำถาม ๑๖๐.

ถาม

พอครบ 1 ชม. หนูก็นอนประมาณเที่ยงคืน แต่ทำไมตอนเช้าหนูรู้สึกว่านอนไม่พอมันเพลียค่ะรู้สึกมึนหัว ตื่นประมาณหกโมงกว่าๆ ทั้งๆที่นอน 6 ชั่วโมง

ตอบ

แก้ที่กายก่อน นอนให้ตรงเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ ให้ชั่งใจตัวเองดีๆ ว่าไม่ใช่อาการของรูปกายแน่แล้ว ค่อยมาสังเกตเรื่องของจิต เฝ้ารู้เพียรภาวนา ชำระล้างใจไม่ให้สนิมกิเลสมาเกิด เพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อนามโรค กิเลสไม่มีในจิตพักผ่อนหลับนอนนิดเดียวก็พอแล้ว.

๒๓๗.

ถาม

จิตที่อยู่ในภวังค์กับจิตดวงที่ออกจากร่างก่อนตาย ดวงเดียวกันหรือไม่

ตอบ

ไม่มีจิตอยู่หรือจิตออก นั่นเป็นเพียงอาการรับรู้ของจิตในภาวะต่างๆ กันเท่านั้น.

๒๓๖.

ถาม

จิตใจตอนนี้มีความรู้สึกเฉยๆกับทุกอย่าง มีความเบื่อหน่าย ความง่วงก็เข้ามา
ความขี้เกียจก็เข้ามา ทำอะไรรู้สึกไม่มั่นใจ ทั้งคำพูดและการกระทำ ไม่เหมือนกับตอนที่เราฝึกดูจิตใจให้มีแต่ความว่าง อะไรที่เข้ามากระทบเราจะรู้ทันปัญหา แต่ความรู้สึกเฉยๆแบบนี้ ดูจิตใจมันอยู่กับเราจะ2เดือนแล้ว ขอความเมตตาจากหลวงตาช่วยให้จิตใจดวงนี้กระจ่างแจ้งชัดเจนด้วยเจ้าค่ะ

ตอบ

เฉย 2 แบบ คือ 1. แบบขี้เกียจ 2. เฉยแบบรู้เท่าทัน...แบบที่หนึ่งนั้นเฉยไม่จริงเป็นโมหะจิตบวกกับโลภะจิต แต่แบบที่สอง เฉยเพราะรู้คุณ รู้โทษของความว่างไม่ว่าง เฉยแบบรู้เท่าทันนี่เป็นอาการของสติ สมาธิหรือโสภณจิต.

๒๓๕.

ถาม

นมัสการพระอาจารย์ ไม่ทราบว่าพระจากวัดอื่นจะเข้าปฏิบัติที่วัดป่าโสมพนัสได้ไหมคะ พอดีน้องเพิ่งจะบวช แล้วอีกประมาณ 1เดือนพระจากวัดธรรมกายจะไปที่วัดที่น้องบวชอยู่ กลัวว่าถ้าปฏิบัติไปทางสายสมถะจะทำให้กู่ไม่กลับ เพราะตอนนี้มีปัญหาหูแว่วจะต้องกินยาอยู่ แม่บอกว่าอาการจะเป็นเฉพาะตอนที่นอนไม่หลับก็เลยคิดว่าถ้าได้ปฏิบัติทางเจริญสติแบบของหลวงพ่อเทียนน่าจะช่วยได้มากกว่า

ตอบ

ปฏิบัติจากวัดอื่นแล้วมาโสมพนัสได้ หูแว่วสมุฏฐานมาจาก 2 สาเหตุ คือเป็นโรคจิต คือความผิดปกติของสมองหรือระบบประสาทจริงๆ กับโลกวิญญาณคืออุปาทานในผัสสะ มิจฉาทิฐิต่อปรากฏการณ์.

๒๓๔.

ถาม

1. เวลาเดินจงกรม เราควรกำหนดความรู้สึกตัวที่ตรงไหน ตรงเท้าที่สัมผัสพื้น หรือตรงขาที่มันเคลื่อนไหวหรือกำหนดทั้งตัว

ตอบ

จากน้อย, ไปหามาก , ทำได้แค่ไหนก็เริ่มจากนั้น

ถาม

2. เวลาสร้างจังหวะมือ ควรกำหนดที่ตรงไหน ตรงมือหรือแขน หรือทั้งมือและแขนที่มันเคลื่อนไหว

ตอบ

คำตอบเดิม

ถาม

3. ความรู้สึกตัวที่เป็นสติกับเวทนากาย ต่างกันอย่างไร

ตอบ

เวทนาทางกายก็เช่น เจ็บ ปวด เมื่อย เย็น ร้อน สติก็เห็นอาการที่มันเป็นไงล่ะ

ถาม

4. คนเราควรนอนวันละกี่ชั่วโมง, เวลานอนควรกำหนดตรงไหน, ทำอย่างไรเวลาตื่นขึ้นมาแล้วถึงไม่ง่วง

ตอบ

แล้วแต่เหตุปัจจัยของธรรมและสังขาร , มีสติให้ชัด, จิตไม่ง่วง

ถาม

5. เจริญสติให้ต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ติดต่อกัน 2 วันแล้วหยุด 5 วัน กับเจริญสติวันละ 3 ชั่วโมง 7วันแต่ไม่ต่อเนื่อง อันไหนดีกว่ากัน

ตอบ

อันไหนเกิดปัญญาแก้ปัญหาทุกข์ได้อันนั้นแหละดีกว่า

ถาม

6. ผมเป็นคนคิดมากขนาดเพ่งจ้องแแล้วมันยังคิดอยู่เลย ไม่รู้จะรู้สึกตัวที่ตรงไหนถึงจะออกจากความคิดได้เหมือนกับว่ายิ่งเจตนารู้สึกตัวมากๆมันยิ่งคิดมาก

ตอบ

รู้กาย รู้จิต รู้กายเคลื่อนไหว รู้ใจนึกคิดก็พอ

ถาม

7. ครั้งสุดท้ายที่ไปปฏิบัติที่วัด ก่อนจะกลับบ้านพอดีผมมองไปเห็นครูบาท่านหนึ่ง แล้วท่านก็มองดูผม หลังจากนั้นท่านก็ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมไม่ทราบว่าท่านต้องการจะสื่ออะไร

ตอบ

กลับไปถามท่านเอาเองเถอะ

ถาม

8. การแก้ปัญหาเอาเองกับให้ครูบาอาจารย์แก้ปัญหาให้อันไหนดีกว่ากัน

ตอบ

ต่อไปเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัตินะครับ

ถาม

1.เคยได้อ่านในหนังสือของหลวงตาที่มีทัศนะเกี่ยวกับเรื่องอภิปรัชญา ในหนังสือเขียนว่าผลของการปฏิบัติตามแนวทางนี้มีข้อหนึ่งคือหมดความสงสัยในเรื่องอภิปรัชญา ผมอยากทราบว่า ที่ว่าหมดความสงสัยนั้นหมายถึงเราทราบคำตอบของคำถามนี้หรือหมายความว่าเราไม่ทราบคำตอบ เพียงแต่คำถามนี้มันหายออกไปจากจิตเรา เราไม่ต้องการรู้คำตอบของมันอีกต่อไป ?

ตอบ

ทั้งสองอย่าง

ถาม

2.เกี่ยวกับเรื่องอภิญญา มนุษย์ที่บรรลุธรรมพ้นทุกข์แล้วสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้หรือไม่?สามารถมีหูทิตย์ ตาทิพย์ล่วงรู้อนาคตได้จริงหรือไม่ ?

ตอบ

จริง

ถาม

3. หลวงตาคิดว่า UFO มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ ?

ตอบ

ไม่มีความคิด

ถาม

4. ปี 2012 โลกจะแตกจริงหรือไม่ ?

ตอบ

ไม่มีความคิด

ถาม

5. เคยได้ยินหลวงตาบอกว่าความว่างมีอยู่ 3 อย่าง คือ 1.ว่างจากความคิด 2.ว่างจากอุปทาน 3.ว่างจากอาสวะ ทั้ง 3 อย่างมีความแตกต่างกันอย่างไร ช่วยอธิบายเพิ่มด้วยครับ

ตอบ

ว่างจากความคิด คือ จิตทั่วไป เช่นหยุดคิด ได้คิด แม้ไม่คิดแต่ก็ยังติดยึด...ว่างเป็นครั้งคราว

ว่างจากอุปทาน คือ ไม่ยึดถือ ยึดมั่นผูกพัน อันเป็นเหตุให้จิตหมดอิสรภาพ... แม้ไม่ยึดมั่นผูกพันแต่ก็เหลือเชื้อ

ว่างจากอาสวะ คือ ว่างจากความว่าง ว่างโดยไม่เหลือเชื้อ...ว่างแบบนิพพาน.

๒๓๓.

ถาม

เวรกรรมมีจริงหรือไม่ ทำไมคนทำชั่วกับบุพการีทั้งกายและวาจาเป็นเวลาที่ยาวนานทำให้ท่านทุกข์ทรมานอยู่ทุกวันนี้ ทำไมเขายังไม่ใด้รับผลกรรมใดๆเลยหรือต้องรอให้ท่านรับกรรมเสียเอง

ตอบ

มีจริง, ที่เห็นเช่นนั้นเพราะยังมีกรรมบางชนิดมาคั่นให้อยู่... ตามจริงคนทำกรรมนั้น กรรมมันให้ทุกข์ทั้งที่ก่อนทำ ขณะทำ และหลังกระทำกรรมนั้นอีกด้วย คือเป็นการให้ผลเป็นทุกข์ทางด้านจิตใจไงล่ะ.

๒๓๒.

ถาม

ผมเจริญสติแบบเคลื่อนไหวจนแยกรูปกับนามได้แล้ว ก่อนหน้านั้นผมเคยฝึกเพ่งมาจนเกิดเป็นจักกระ เวลาผมรู้สึกตัว จักกระก็เคลื่อนเข้ามากลบจนแทบแยกกันไม่ออก จนความรู้สึกตัวนั้นหายไปอยู่กับจักกระแบบนี้ใช้ได้ไหมครับ

ตอบ

ให้สติเป็นผู้รู้เห็นกายเคลื่อนจิตคิดให้ชัดเจน เห็นสักแต่ว่าเป็นอาการเกิด-ดับ,สติประคองจิตไม่ให้หลุดเข้าไปอยู่ในปรากฎการณ์นั้นเท่านั้น.

๒๓๑.

ถาม

โยมอยากบอกเล่าว่าการปฎิบัติระยะนี้ โยมมีความรู้สึกเช่นนี้ อย่างตื่นเช้ามาจะเข้าห้องน้ำ ตอนไปหยิบทิชชุ่แล้ววางลงแรงๆ โยมรู้สึกถึงความแรงความหยาบของมือของใจ ต่อจากนั้นรู้สึกไม่พอใจต่อความหยาบอันนั้น แล้วก็รู้สึกถึงความไม่พอใจอันนั้นจากนั้นความรู้สึกก็จางไป อาการแบบนี้จะเป็นอยู่เป็นช่วงๆเมื่อรู้สึกตัว เพราะโยมจะดูใจตัวเองอยู่บ้าง สังเกตความรู้สึกไม่พอใจอยู่บ่อย เหมือนสิ่งนี้เป็นตัวเด่นที่จะฝึกใจได้เมื่อจิตไม่เผลอถลำลงไปตามอารมณ์ไป แต่ก็มีบ่อยอีกเหมือนกันที่โยมตามไม่ทันจนเป็นอารมณ์เป็นทุกข์ไปแล้ว แต่ก็เก็บมาคิดแก้ไข อาจเพราะโยมมีเป้าหมายค่ะ สาธุสำหรับคำตอบค่ะ

ตอบ

ยังไม่เห็นประเด็นคำถามเลยนะ แต่การที่เราสังเกตอารมณ์ตัวเองอยู่สม่ำเสมอ จะเห็นข้อบกพร่องที่ต้องเอาสติไปเติมให้มันเต็มได้นั้งแหละคือสัมมาทิฎฐิเห็นถูก.

ไม่มีความคิดเห็น: