13 ธันวาคม 2555

qa 301-310

๓๑๐.

ถาม

การเจริญสติด้วยการเคลื่อนไหว หลับได้ไหม

ตอบ

หลับได้แต่ระวังอันตรายมันเยอะอุปสรรคมันมาก หากปฏิบัติระยะยาว , นาน , จะง่วงง่าย, เผลอเข้าไปอยู่ในความคิดโดยไม่รู้ตัว, เกิดนิมิตต่างๆ ได้ง่าย - สรุปเทคนิคนี้อาจเอื้อสำหรับบางคน

๓๐๙.

ถาม

ได้ฝึกปฎิบัติแล้วรู้สึกปวดหัวเหมือนไปเพ่งความคิดตลอด ช่วงหลังมันหลงไปในความคิด จะรู้สึกตัวเบา วูบวาบ แม้กระทั่งนอกเวลาปฏิบัติ ไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

ตอบ

การปฎิบัติไปด้วย พร้อมกับมีผู้ดูแลแก้ไขอารมณ์ปฎิบัติไปพร้อมเป็นเรื่องดีที่สุด เพราะเป็นเรื่องปัจจุบัน เรื่องของการแก้ไขอารมณ์กรรมฐานนั้นเป็นเรื่องของปัญญาความรู้ในกองสังขาร คือ ภาพรวมทั้งหมดคือขั้นพื้นฐานอุปนิสัย ทิฎฐิ จริยา ความคิด พื้นฐานอารมณ์ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิปัญญา ฯลฯ คือเป็นการปรับอินทรีย์5 ให้เป็นปัจจุบันธรรมตลอดเวลา จึงจะมีผลมากกับผู้ปฎิบัติ พูดง่ายๆ ให้เข้าใจ คือ ครูบาอาจารย์ต้องดูแลควบคุมการปฏิบัติเอง ให้อารมณ์ สอบอารมณ์ ปรับอารมณ์เองการปฏิบัติจึงไม่สะดุด ไม่พลาด....ในกรณีนี้รู้ว่าเพ่งก็อย่าไปเพ่ง แม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามก็เพียงแต่สักแต่ว่ารู้เท่านั้น รู้สึกตัวสบายๆ แต่หนักแน่นมั่งคง ไม่หลง...ไม่อยาก

๓๐๘.

ถาม

อยากทราบว่าทำไมสกลนครถึงมีเกจิอาจารย์หลายท่าน จนได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งธรรมะ

ตอบ

คงเพราะความสัปปายะ 5 ได้แก่ อาหารสัปปายะ , อากาศสัปปายะ , อาวาสสัปปายะ , บุคคลสัปปายะ , ธรรมะสัปปายะ

๓๐๗.

ถาม

หนูมีญาติผู้ใหญที่นิยมในทางธรรม ปฏิบัติอยู่เสมอไปช่วยงานที่สำนักปฏิบัติประจำ แต่ได้ยินเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเจ้าสำนักนั้นๆ ว่าดื่มเบียร์ และอยู่กับสีกา แต่ญาติผู้ใหญ่ท่านนั้นก็แก้ต่างให้ตลอด และให้ความเชื่อถือมาก มีอะไรก็เอาไปให้หมดถึงกับจะเอาของที่บ้านไปขายเอาเงินไปทำบุญ ใครว่าท้วงติงก็ไม่ฟัง บ้างก็ว่าเจ้าสำนักคนนี้มีของ หรือไม่ก็อาจจะเชื่อมากจริงๆ ด้วยตนเอง ในกรณีนี้ตัวหนูนึกหลวงตา จึงอยากเรียนปรึกษาว่าควรทำอย่างไรดีค่ะ เป็นไปได้ไหมว่าจะโดนของจริงๆ หรือถ้าเชื่อด้วยตนเองจริงๆ ทางบ้านก็เป็นห่วงว่าปล่อยไปอย่างนี้จะดีหรือ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร

ตอบ

ความจริงเรื่องนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรแท้ แต่การที่เราจะคิดเรื่องของคนอื่น มันทุกข์น่ะด้วยเพราะการเป็นญาติมิตรก็คงอดไม่ได้ต้องช่วยเหลือให้เขาเกิดปัญญา ซึ่งแน่นอนว่าผู้ช่วยเหลือชี้ทางก็ต้องเป็นผู้มีการตั้งตนไว้ชอบ (อัตตสัมมาปณิธิ) ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีได้จนผู้ที่จะได้รับ การชักนำชี้แนะเกิดศรัทธาเลื่อมใส ทำนองว่าตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน....เป็นไปได้ไหมที่จะชักนำทั้งกายและใจเขาไปหาบัณฑิตหรือกัลยาณมิตรที่มีความรู้ความสามารถ ปฏิปทา อันเยี่ยม จนสามารถเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดการพลิกจิตถ่ายคืนอัตตาความคิดที่หลงทางกลับมาได้....ไม่รู้ว่าคนผู้ต้นเหตุมีอัตตามากมายแค่ไหน อุปนิสัยเป็นอย่างไร การวินิจฉัยนี้จึงลำบาก แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นกำลังใจให้ผู้มีจิตเมตตาอยากช่วยเหลือผู้อื่นพ้นทุกข์ให้ทำไปเถอะ จงอย่าท้อถอยพยายามให้มากแล้วจะเห็นทางด้วยตัวของตัวเอง เชื่อไว้เสมอว่าทุกอย่างไม่เที่ยงทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะวัตถุหรืออารมณ์ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น นี้เป็นพุทธพจน์นะ

๓๐๖.

ถาม

หลังจากกลับมาจากปฏิบัติธรรมช่วงแรกๆ ก็เจริญสติไปเรื่อยๆ เพราะอยากให้คนในบ้านเห็นจุดเปลี่ยนดีๆ ของหนูบ้าง แต่ตอนหลังเริ่มติดกิเลสอ้างโน้นนี่นั่นมากมายจนละการเจริญสติ หนูเห็นว่าตัวเองเป็นคนตั้งใจทำอะไรเกินไปและให้ความหวังกับสิ่งที่ตนทำมากๆ พอทำไม่ได้ก็เสียใจมากเช่นกัน รู้สึกว่าเวลาทำอะไรไม่สำเร็จเช่น สอบไม่ผ่าน มันจะมี 2 สิ่งเกิดขึ้นคือ

1. นึกถึงคำสอนของหลวงตาว่าให้อยู่กับปัจจุบันแล้วปล่อยให้อดีตมันผ่านไป

2. โทษตัวเองทุกครั้ง

บางทีความคิดพวกนี้มันวุ่นวายอยู่ในหัวจนรู้สึกสับสน ทำให้ทำงานอย่างอื่นไม่ได้ บางทีหนูก็อยากร้องไห้ บางทีหนูก็รู้สึกโล่ง

ตอบ

"ยึดสิ่งใด ก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น" ฝึกใจให้อยู่กับปัจจุบัน ปล่อยวางสิ่งที่จรเข้ามา...เฉยกับความคิด ความคิดก็จะไม่ติดตามเรา ฝึกเรียนรู้วิธีอยู่กับความโล่ง ค่อยทำ ค่อยเป็น ค่อยไปทำตามธรรม อย่าทำเพราะความอยาก ฝึกสติให้เห็นตัวใจ ว่างจากความยึดถือ หนูต้องขยันปฏิบัติในรูปแบบทุกๆ วัน เช้า เย็น ต้องเข้ารหัสรูปนามให้ได้ ไม่ต้องรีบร้อน ใจร้อน ทุกข์เป็น ใจเย็น ทุกข์ดับ...อย่าไปหงุดหงุดกับสัญญา เวทนา อารมณ์ ฯลฯ สิ่งที่เราอยากเป็นภาพลวงตาทั้งนั้นแหละ ฝึกตามนี้รับรองทุกข์หาย...โอมเพี้ยง

๓๐๕.

ถาม.

เคยนั่งดูกิริยาตัวเองตอนทานข้าวว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นอย่างไรแล้วก็เหมือนกับว่ามีเราอีกคนกำลังดูคนที่กำลังนั่งทานข้าว สักแป๊ปเดียวหลังจากนั้นก็ไม่กล้าสังเกตความเคลื่อนไหวของตัวเองอีกเลย

ตอบ

การทำกรรมฐานเห็นไหม...ทำได้ไม่ยาก ก็ฝึกดูกิริยากาย(รูป) ดูกิริยาจิต(นาม) แต่ตัวดู (สติ) ต้องมีพลัง (สมาธิ) เพียงพอ จึงจะได้ประโยชน์เป็นสัมมาทิฐิ คือ ดูเป็น เห็นถูก ทุกข์ดับ หากเราฝึกสติรู้ตัวตามขั้นตอน จึงมีผลดังนี้

1. ไม่เห็นมีอะไร มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนี้ มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ดูแล้วก็ไม่เห็นจะได้อะไร

2. เห็นแล้วเกิดปิติซาบซึ้งน่าสงสารจิตเป็นสมาธิ

3. เห็นรูปกับนามเป็นของน่าเบื่อหน่าย

4. เห็นเป็นของน่ากลัวสลดหดหู่ถึงกลับอยากหลุดพ้น

5. เห็นแล้วปล่อยวางเป็น เห็นความว่างเกิดความแจ่มแจ้งเป็นวิปัสสนาญาณด้วยญาณทัศนะ

6. เห็นความหลุดพ้นของจิตจากอวิชชา

๓๐๔.

ถาม

ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ก่อนมาชอบธรรมะมาก พอมาอยู่ต่างประเทศยิ่งเห็นทุกข์ชัดเจนมากเลยตั้งใจว่าอีกไม่นานเมื่อลูกโตก็จะกลับไปปฏิบัติธรรมแบบเต็มที่ หาวิธีแก้ทุกข์โดยการปฏิบัติธรรมตามแนวหลวงพ่อเทียนและพยายามปฏิบัติให้ได้โดยการเดินจงกรมวันละ 2 ชั่วโมง จิตใจก็ดีขึ้นบ้างแต่อาการโกรธ หงุดหงิดกับลูกและภาระกิจต้องทำ ขอคำแนะนำการฝึกปฎิบัติเพื่อจิตใจจะยอมรับและทำหน้าที่มีอยู่ปัจจุบันอย่างสงบและปล่อยวาง

ตอบ

ต้องฝึกให้ต่อเนื่องแนะนำให้เข้าคอร์สฝึกจริงๆ จังๆ ให้ต่อเนื่อง มีกัลยาณมิตรให้คำปรึกษา ในขณะฝึกจะทำให้เกิดความเข้าใจ เกิดความก้าวหน้าได้ไว...เรื่องอารมณ์ อย่าทำเป็นเล่นๆ ไป อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะอารมณ์มันเข้ามาทำหน้าที่บงการชีวิตในรูปแบบของผู้ร้าย ก่อนธรรมะซึ่งเป็นเรื่องของจิตที่ดีๆ ได้ถูกแย่งพื้นที่ครอบครองไปแล้ว

เราควรใส่ใจกับชีวิตที่ปกติสุข ว่างจากทุกข์ให้มาก...นี่มันกำลังเปลี่ยนชีวิตคุณเป็นคนใหม่แล้วไง ชีวิตที่มีแต่โทสะ...ไม่อยากพูดมันน่ากลัว

๓๐๓.

ถาม

กลับมาจากวัดครั้งล่าสุดมองเห็นตัวเองมีแต่ความทุกข์และเป็นทุกข์เดิมๆ ทั้งกายและใจเห็นแล้วสงสารตัวเองที่จมอยู่ในกองทุกข์มากมาย แต่ก็ยังไม่มีปัญญาหยุดพ้นจากกองทุกข์นี้ เห็นใจตัวเองร้องไห้บ่อยๆ

ตอบ

ทางพ้นทุกข์คือ ระลึกรู้สึกตัวต่อเนื่องให้มากๆ อย่าให้ใจหลงเข้าไปในอารมณ์

๓๐๒.

ถาม

1.ปัจจุบันมีสภาวะแปลกๆ คือ ในหัวตึงๆ หนักๆ เป็นมาแล้ว มันเหมือนมีอะไรมาเต้นตุบๆอยู่ในหัว ไม่ได้เป็นตลอดเวลา แต่ช่วงหลังๆ เป็นบ่อยขึ้น มันเกิดจากอะไร และต้องแก้ไขอย่างไร

2.เกิดสภาวะที่ว่า อยู่ๆ ความจำก็หายไป บางครั้งเจอคนที่รู้จักแต่นึกไม่ออก มันเหมือนเรื่องนั้นมันหายไป ทั้งที่รู้ว่าเรื่องนั้นมันคืออะไรแต่นึกไม่ออก ช่วงหลังเป็นบ่อย เกิดจากอะไร ต้องแก้ไขอย่างไร

ตอบ

มาหาหมอที่วัดเพื่อจะได้ดูอาการชัดๆ ดีกว่าไหม จะได้วินิจฉัยถูก

๓๐๑.

ถาม

ขอสอบถามการฝึกในช่วงเวลาไม่มีการอบรม เนื่องจากมีเวลาจำกัด หากประสงค์ขอเข้ารับการฝึกตน จะได้หรือไม่ ข้อจำกัดอีกประการคือ ยังไม่เคยมีพื้นฐานในการปฏิบัติธรรมมาก่อน แต่ได้อ่านรายละเอียดการสมัครและฝึกการเคลื่อนไหวจากเวบไซด์มาบ้างแล้ว

ตอบ

เข้าตรงตามเวลาที่มีคอร์สจะดีกว่า (ดูตารางการอบรมในเวบ)

ไม่มีความคิดเห็น: